อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
EUR/USD
เมื่อวานนี้ มีการเปิดเผยข้อมูลที่น่าเป็นห่วงจากสหรัฐฯ โดย GDP ในไตรมาสแรกหดตัวลง 0.5% เมื่อเปรียบเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ว่า -0.2% อัตราเงินเฟ้อที่วัดจากค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (PCE) ในช่วงเวลาเดียวกันเพิ่มขึ้นจาก 2.6% เป็น 3.5% (เทียบกับการคาดการณ์ที่ 3.4%) การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แท้จริงเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% ตรงข้ามกับที่คาดไว้ว่า 1.2% และผลกำไรของบริษัทหดตัวลง 3.3% ดุลการค้าสำหรับเดือนพฤษภาคมแย่ลงจาก -$86.97 พันล้านเป็น -$96.59 พันล้าน อย่างไรก็ตาม ด้านบวกคือคำสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนพฤษภาคมพุ่งสูงขึ้น 16.4% สูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 8.6% แต่การเพิ่มขึ้นนั้นมีแนวโน้มไปยังภาคการขนส่งเป็นหลัก
แน่นอนว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะพิจารณาข้อมูลนี้เมื่อปรับนโยบายการเงิน เป็นผลให้ นักลงทุนเพิ่มความคาดหมายว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่การประชุมเดือนกรกฎาคมเป็น 21% และในเดือนกันยายนจาก 65.6% เป็น 70.2% ภายในวันเดียว ยูโรเพิ่มขึ้น 41 จุด แต่ S&P 500 ก็เพิ่มขึ้น 0.80% เช่นกัน ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการเสี่ยงที่ยังคงคงที่ เช้านี้ ฟิวเจอร์ส S&P 500 ได้ทำระดับสูงสุดใหม่ตลอดเวลา ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ตลาดจะพิจารณาการกลับตัว?
ในแผนภูมิรายสัปดาห์ ยูโรใกล้เข้าสู่ขอบบนของช่องราคาที่ระดับ 1.1820 ขณะนี้ Marlin oscillator แสดงให้เห็นว่าการบรรลุเป้าหมายนี้จะไม่ทำให้เกิด divergence ขาลงที่กำลังพัฒนาขึ้น สัปดาห์หน้าจะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในเรื่องนี้
บนกราฟรายวัน ราคาได้พยายามยืนอยู่เหนือระดับ 1.1692 แต่ตัวชี้วัด Marlin กำลังปรับลงเล็กน้อยซึ่งไม่สนับสนุนการเคลื่อนไหวนี้ แนวรับหลักอยู่ที่เส้น MACD ที่ 1.1590 หากมีการเคลื่อนไหวที่มั่นคงต่ำกว่าเส้นนี้ จะส่งสัญญาณการกลับตัวลงในระยะกลาง
ในกราฟสี่ชั่วโมง เส้น MACD ให้การสนับสนุนสอดคล้องกับการสนับสนุนจากกรอบเวลาใหญ่ขึ้น (1.1590) ทำให้สถานะของฝั่งกระทิงยังคงมั่นคงพอสมควร ออสซิลเลเตอร์ Marlin พร้อมที่จะหันขึ้น และราคากำลังดีดตัวจากระดับ 1.1692
อย่างไรก็ตาม วันนี้เป็นวันศุกร์ ซึ่งอาจมีการทำกำไรรายสัปดาห์ ดังนั้นเราจึงไม่คาดว่าราคาจะปิดด้วยแท่งเทียนสีขาว (กระทิง) ในวันนี้
You have already liked this post today
*บทวิเคราะห์ในตลาดที่มีการโพสต์ตรงนี้ เพียงเพื่อทำให้คุณทราบถึงข้อมูล ไม่ได้เป็นการเจาะจงถึงขั้นตอนให้คุณทำการซื้อขายตาม